เเปรงสีฟัน ธรรมดา กับ แปรงสีฟันไฟฟ้า แบบไหนดีกว่ากัน ?

เเปรงสีฟัน เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ทำความสะอาดฟัน ลักษณะเป็นด้ามให้จับ มีความยาวประมาณ 15 เซนติเมตร และปลายข้างหนึ่งมีขนแปรง เพื่อใช้คู่กับ ยาสีฟัน เพื่อ ขัดถูฟัน และควรแปรงฟันวันละ 2 ครั้ง ประมาณครั้งละ 2 นาทีและใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำหลังแปรงฟัน

สารบัญ

• ข้อดีของ เเปรงสีฟัน ธรรมดา และ แปรงสีฟันไฟฟ้า
• ข้อเสียของ แปรงสีฟัน แบบทั่วไป และ แปรงสีฟันไฟฟ้า
• ควรเลือก แปรงสีฟัน อย่างไรดี ?
• เเปรงสีฟัน ธรรมดา กับ เเปรงสีฟันจัดฟัน ต่างกันยังไง ?
• เก็บ แปรงสีฟัน อย่างไร ให้ห่างไกลเชื้อโรค

แปรงสีฟันไฟฟ้า ด้ามแรกของโลกเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1927 ผลิตขึ้นโดยบริษัท Electro Massage Toothbrush Company ต่อมาก็มีหลายๆ บริษัทผลิตแปรงสีฟันไฟฟ้าขึ้นมา ซึ่งช่วงแรกๆ จะมีขนาดใหญ่มาก ไม่เหมาะกับการพกพา มีไว้ใช้สำหรับผู้ป่วยที่เคลื่อนไหวมือหรือแขนได้เป็นปกติ รวมถึงผู้ป่วยที่จัดฟัน

หลักๆ แปรงสีฟันไฟฟ้าจะเป็น แบบหมุน และแบบสั่น ซึ่งก็ไม่แตกต่างกันมากขึ้นอยู่กับการวางแปรงของเราว่าตรงกับตำแหน่งฟันที่จะแปรงหรือขัดไหม บางคนฟันซี่เล็กก็ใช้แปรงแบบกลมๆ ก็จะถนัดกว่า ก็แล้วแต่ที่จะเลือกใช้ค่ะ

ข้อดีของ เเปรงสีฟัน ธรรมดา และ แปรงสีฟันไฟฟ้า

– เเปรงสีฟัน ธรรมดา จะมีราคาถูก หาซื้อง่าย ไปไหนก็ใช้ได้ไม่ต้องพกแบตเตอรี่ แปรงได้ดี เน้นตามซอกฟัน ได้ตามต้องการ
– แปรงสีฟันไฟฟ้า ไม่ต้องอาศัยความชำนาญในการแปรงฟันมาก เหมาะสำหรับคนที่มีอาการข้อมืออ่อนแรง หรือในเด็กที่เป็นออทิสติกไม่สามารถควบคุมข้อมือได้ดี ก็สามารถแปรงฟันได้ง่ายและดีขึ้น ใช้เวลาในการแปรงฟันที่สั้นลง ผู้ป่วยติดเตียง เราควรดูแลสุขภาพช่องปาก ให้อย่างไร ?

ข้อเสียของ แปรงสีฟัน แบบทั่วไป และ แปรงสีฟันไฟฟ้า

– แปรงสีฟัน แบบทั่วไป ต้องอาศัยความชำนาญในการแปรง หรือผู้ที่มีอาการเจ็บข้อมือ อาจจะแปรงได้ไม่สะอาดหรือดีพอ
– แปรงสีฟันไฟฟ้า หาซื้อยาก มีราคาค่อยข้างสูง และต้องอาศัยการใช้แบตเตอรี่ตลอด

ควรเลือก แปรงสีฟัน อย่างไรดี

แปรงสีฟัน เป็นอุปกรณ์พื้นฐานสำคัญที่สุดในการทำความสะอาดช่องปาก ที่ทุกคน ต้องใช้เป็นประจำทุกวัน เพื่อกำจัดคราบจุลินทรีย์ลดเหงือกอักเสบ

1. เลือกแปรงสีฟันให้เหมาะสมกับอายุ โดยการสังเกตจากช่วงอายุที่ใช้แปรงสีฟันได้อย่าง เหมาะสม ตามที่ระบุบนฉลากแปรงสีฟัน ได้แก่ แปรงสีฟันเด็กต่ำกว่า 3 ปี แปรงสีฟันเด็ก 3-6 ปี แปรงสีฟันเด็ก 6-12 ปี และแปรงสีฟันผู้ใหญ่ เพราะการใช้แปรงสีฟันที่มีขนาดใหญ่เกินไปไม่พอดีกับช่องปาก จะทำให้ไม่สามารถทำความสะอาดซี่ฟันด้านในได้

2. เลือกลักษณะของแปรงสีฟันที่มีคุณภาพ ได้แก่

2.1 หัวแปรง มีลักษณะมน ไม่เป็นเหลี่ยมมุม ขนาดพอดีกับช่องปากของแต่ละวัย
2.2 ขนแปรงนุ่มหรือนุ่มพิเศษ มีการมนปลายหรือตัดอย่างเรียบร้อย ถ้าเป็นชนิด ปลายเรียวแหลม ปลายขนแปรงควรเรียบร้อย ไม่มีความคม หรือขรุขระ
2.3 ด้ามแปรงตรง หรือทำมุมเพียงเล็กน้อย จับถนัดมือ

เเปรงสีฟัน ธรรมดา กับ เเปรงสีฟันจัดฟัน ต่างกันยังไง ?

ไม่ว่าจะเป็น เเปรงสีฟัน ธรรมดา หรือ เเปรงสีฟันสำหรับคนจัดฟัน 6 วิธี สำหรับ คนจัดฟัน ดูแลฟันยังไง ไม่ให้มีกลิ่นปาก ? ตัวแปรงควรมีลักษณะที่เล็กและจับได้ง่าย เหตุผลที่เราควรใช้แปรงสีฟันที่มีขนาดเล็ก ก็เพราะว่าเราจะสามารถนำแปรงสีฟันเข้าไปในปากถึงซี่ข้างในสุดของเราได้ โดยที่แปรงสีฟันของเราไม่ติดกระพุ้งแก้ม เพราะฉะนั้นเราควรเลือกใช้แปรงสีฟันที่มีขนาดเล็ก และจับถนัดมือ

เเปรงสีฟัน ธรรมดา กับ เเปรงสีฟันจัดฟัน จะต่างกันที่ขนแปรง ขนแปรงธรรมดาจะมีอยู่ระดับเดียว และควรมีขนแปรงที่นุ่ม ซึ่งถ้าใช้ขนแปรงที่แข็งก็จะส่งผลเสียให้กับฟันของเราสึกได้ง่ายตรงบริเวณคอฟัน และมีโอกาสที่เหงือกของเราจะร่น

เเปรงสีฟันจัดฟัน ขนแปรงจัดฟันจะมีอยู่ 2 ระดับ ด้านนอกจะเป็นขนแปรงที่ใช้ทำความสะอาดฟัน และตรงกลางที่เป็นร่อง จะใช้ทำความสะอาดลวดจัดฟันนั่นเอง

เก็บ แปรงสีฟัน อย่างไร ให้ห่างไกลเชื้อโรค

การเก็บแปรงสีฟันมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าการเลือกแปรงสีฟัน หากเก็บแปรงสีฟันไม่ถูกสุขลักษณะ อาจเกิดการสะสมเชื้อโรคที่กระจุกขนแปรงสีฟันได้ วิธีเก็บแปรงสีฟัน หลังใช้งาน มีดังนี้

1. ล้างแปรงสีฟันให้สะอาดด้วยน้ำธรรมดาหลังการใช้งานทุกครั้ง
2. เก็บแปรงให้อยู่ในลักษณะแนวตั้ง ป้องกันน้ำไหลลงหัวแปรง
3. เก็บแปรงสีฟันในที่แห้ง อากาศถ่ายเทได้ดี เพื่อลดการเจริญเติบโตของเชื้อโรค ไม่ควรใช้ที่ครอบหัวแปรง เพราะจะทำให้แปรงอับชื้น
4. เก็บแปรงสีฟันไม่ให้หัวแปรงสัมผัสกับแปรงสีฟันของคนอื่น ควรแยกเก็บ แปรงสีฟัน 1 ด้ามต่อ 1 ภาขนะ เพื่อป้องกันการส่งผ่านเชื้อโรค