หมอฟัน ไม่ได้แค่ทำฟัน ?!

มีหลายคนถามเยอะเลยค่ะ ว่าทำไมถึงมาเรียน หมอฟัน จริงๆ แล้วเป็นอาชีพที่สนุกอาชีพนึงเลยนะคะ

หมอฟัน นั้นเป็นการผสมผสานระหว่างศาสตร์ และศิลป์เข้าด้วยกัน ด้วยส่วนตัวหมอแล้วตั้งแต่เด็ก ชอบงานฝีมือประดิษฐ์ประดอย ชอบวาดรูประบายสี พอได้มาลองเรียนทันตแพทย์ รู้สึกว่าชอบในงานปฏิบัติมาก เราต้องทำงานกับฟันซึ่งมีขนาดเล็กมาก หน่วยวัดที่ใช้กันเป็นมิลลิเมตร 1มิลลิเมตร, ครึ่งมิลลิเมตร เป็นต้น

แล้วใครจะรู้บ้างว่า นอกจาก ฟันปลอม แล้ว หมอฟัน ก็สามารถทำตาเทียม, หูเทียม, นิ้วเทียม ได้ และยังทำเพดานเทียม สำหรับผู้ป่วยที่ปากแหว่งเพดานโหว่ได้ด้วย โดยทำร่วมกับคุณหมอฟันด้านศัลยกรรม เย็บส่วนที่ ปากแหว่ง และคุณหมอฟันด้านประดิษฐ์ขากรรไกร และใบหน้า จะทำส่วนเพดานเทียมขึ้นมา ช่วยให้คนไข้ทานอาหาร, ดื่มน้ำ, พูดได้ปกติ ซึ่งเคสแบบนี้ต้องดูแลกันตั้งแต่แรกเกิดเลยล่ะค่ะ

ส่วนตัวหมอแล้วรู้สึกโชคดีมาก ที่ได้เป็นหนึ่งในทีมอาจารย์แพทย์ ในการช่วยรักษาคนไข้มะเร็ง ที่โรงเรียนทันตแพทย์ อยู่หลายปี คนไข้ภายหลังจากการถูกผ่าตัดบางส่วนของใบหน้าออกไป ที่เป็นเนื้อร้าย ให้เค้าได้ใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างปกติในสังคมเหมือนเดิม

แน่นอนว่าตำแหน่งที่ถูกตัดแต่ละเคสก็จะไม่เหมือนกัน ต้องมีการปรึกษาหารือในทีมแพทย์หลายๆ ฝ่าย ทั้งศัลยกรรม, ทันตกรรมประดิษฐ์, ทันตกรรมบูรณะ, ทันตกรรมปริทันต์ (เหงือก) รวมทั้งช่างทันตกรรมด้วย ว่าจะทำยังไงให้คนไข้กลับมาสวยหล่อเหมือนเดิม &อวัยวะใช้งานได้ดีเหมือนเดิม โดยที่คนไข้เหล่านี้ก็ต้องได้รับการรักษาหลายขั้นตอน และมีค่าใช้จ่ายในการรักษามากมาย ทางคณะก็ได้ให้การช่วยเหลือสนับสนุนบางส่วนด้วย

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.9 เคยทรงพระราชดำรัสไว้ว่า “ทันตแพทย์อย่าดูแต่เรื่องฟันอย่างเดียว ให้ดูเรื่องอื่นๆ ด้วย เช่น สังเกตขาเจ็บ ตาบวม เจ็บคอ ฯลฯ เพราะทันตแพทย์ก็เป็นแพทย์เหมือนกัน เรียนมาเหมือนกัน ถ้ารักษาได้ก็ควรให้การรักษา”

ตอนนี้เราก็มีหน่วยงานที่ไม่ได้ดูแลแต่เรื่องฟันอย่างเดียวแล้วค่ะ คือ”หน่วยประดิษฐ์ขากรรไกร และใบหน้า” โชคดีของประชาชนชาวไทยจริงๆ ที่พระองค์ท่านให้การสนับสนุนด้านทันตสาธารณสุขมาโดยตลอด
หากใครจะแชร์ หรือแนะนำให้คนรู้จัก ถึงหน่วยงานนี้ด้วยก็ได้นะคะ ตอนนี้มีทั้งภาครัฐ และเอกชนแล้วค่ะ หรือมีข้อสงสัยอะไรก็แวะมาสอบถามหมอได้ตลอดเลยนะคะ ถือว่าช่วยๆ กัน ให้คนไทยได้มีสุขภาพกาย และใจแข็งแรงกันถ้วนหน้าค่ะ