ออกกำลังกาย ทำไมต้อง “โยคะ” สัมพันธ์กับสุขภาพช่องปากอย่างไร ?

ออกกำลังกาย อย่างเดียวคงไม่เพียงพอ สุขภาพช่องปากนั้นก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญต่อการมีสุขภาพกายที่ดี การมีสุขภาพช่องปากที่ดีจะทำให้เราสามารถรับประทานอาหารได้ และส่งผลให้สุขภาพกายแข็งแรงไปด้วย

แต่หากมีปัญหาในช่องปากโดยเฉพาะ โรคปริทันต์ อาจทำให้มีการลุกลามของโรคไปผ่านอวัยวะอื่นๆ ในร่างกายถ้าการติดเชื้อรุนแรง โดยสาเหตุของปัญหาทางกายอื่นๆ ที่มีผลจากโรคในช่องปาก ได้แก่ เยื่อหุ้มหัวใจติดเชื้อ, โรคเบาหวาน

และในหญิงตั้งครรภ์ก็มีโอกาสเสี่ยงต่อการคลอดทารกก่อนกำหนด หรือทารกมีน้ำหนักแรกคลอดต่ำ โรคเหงือก อักเสบ พบบ่อยในหญิงตั้งครรภ์ ? นอกจากนี้การมีฟันที่สวยงามยังเพิ่มความมั่นใจในการเข้าสังคมอีกด้วย

สารบัญ

• ออกกำลังกาย ทำไม? ต้องเป็น “โยคะ”
• 8 ประโยชน์จากการ ออกกำลังกาย โยคะ
• อุปกรณ์ ออกกำลังกาย 4 อย่าง สำหรับมือใหม่ฝึกโยคะ
• อาหารของผู้ฝึกโยคะ แบ่งเป็น 3 ประเภท
• เมนูอาหารหลังเล่นโยคะ ที่ช่วยควบคุมน้ำหนัก
• การกินผัก ผลไม้ ช่วยป้องกันฟันผุได้อย่างไร ?

ออกกำลังกาย ทำไม? ต้องเป็น “โยคะ”

โยคะ เป็นการ ออกกำลังกาย (Exercise) ชนิดหนึ่งที่ต่างจากการออกกำลังประเภทอื่นคือ เป็นการบริหารร่างกาย ด้วยท่าต่างๆ พร้อมฝึกการหายใจ เพื่อให้ร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณมารวมกัน ถือว่าเมื่อร่างกายแข็งแรง จิตใจและวิญญานก็จะแข็งแรง สมดุลย์และสงบ

ซึ่งการเล่นโยคะนั้นจะใช้แรงน้อย เน้นผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ลดความเมื่อยล้า ทำที่ไหนก็ได้ ไม่ใช้พื้นที่เยอะ โดยจะโฟกัสไปที่จิตและสมาธิ จึงทำให้ไม่เพิ่มขนาดของกล้ามเนื้อ ช่วยยืดหยุ่น เพิ่มการเผาผลาญ ช่วยรูปร่างสมดุล ดูแลข้อต่อ ช่วยให้จิตใจสงบ ฝึกสมาธิ ลดความเครียด อารมณ์ดีขึ้น โดยทำเป็นประจำ 3-5 วัน/สัปดาห์

8 ประโยชน์จากการ ออกกำลังกาย โยคะ

การเล่นโยคะไม่ได้ทำให้ผอมเพียงอย่างเดียว ถ้าเพื่อนๆ เล่นโยคะประมาณ 1 สัปดาห์ ประโยชน์เหล่านี้เกิดขึ้นกับทุกคนแน่นอน

1. เสริมสร้างกระดูก

มีผลการศึกษายืนยันว่าการเล่นโยคะ ท่าที่เกี่ยวข้องกับกระดูก เช่น ท่างู, ท่ายืดหลัง, ท่าอูฐ หรือท่าแพลงก์ด้านหลัง วันละ 12 นาทีเป็นประจำทุกวัน จะช่วยให้ความหนาแน่นของเกลือแร่ในกระดูกเพิ่มมากขึ้น ทำให้กระดูกไม่เปราะหรือแตกง่ายค่ะ

2. บำรุงหัวใจ

ป้องกันโรคเกี่ยวกับหัวใจ การเล่นโยคะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของปอด ระบบทางเดินหายใจ อัตราการเต้นของหัวใจ ทำให้เลือดไหลเวียน และทำให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรงขึ้นด้วยค่ะ

3. แก้ปัญหานอนไม่หลับ

อีกหนึ่งปัญหาที่หลายคนเป็น แต่เชื่อไหมคะว่าการเล่นโยคะ ช่วยแก้ปัญหานี้ได้ เพราะมีการทดลองมาแล้วค่ะว่าคนที่เล่นโยคะทุกวันเป็นเวลา 2 เดือน จะหลับได้ง่ายขึ้น หลับลึกขึ้น และตื่นเป็นเวลามากขึ้นค่ะ

4. แก้อาการปวดหลัง

ใครที่มีอาการปวดหลัง หรือออฟฟิตซินโดรม ซึ่งการเล่นโยคะก็ทำให้อาการปวดหลังสามารถหายได้ มีการสำรวจว่าคนที่เล่นทุกวันเป็นประจำเป็นเวลา 3 เดือนนั้น อาการปวดหลังจะน้อยลง โดยเล่นท่างอเข่าชิดอก, ท่าตี๊กแตนบิด, ท่านักรบ, ท่าเรือบด หรือท่านกพิราบ

5. ช่วยปรับอารมณ์ให้คงที่และมีสมาธิมากขึ้น

เพราะเวลาเล่นโยคะเราจะต้องจดจ่ออยู่กับแต่ละท่า และได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง ความเครียดต่างๆ จึงทุเลาลง

6. ช่วยแก้ปัญหากลั้นปัสสาวะไม่อยู่

ซึ่งท่าที่ควรทำเป็นประจำที่ช่วยบริหารอุ้งเชิงกรามให้แข็งแรงก็คือ ท่าผีเสื้อ, ท่าสะพาน, ท่าเทพธิดา, ท่านกอินทรี และท่าอาขา เป็นต้น

7. บรรเทาอาการปวดไมเกรน

เพราะการเล่นโยคะนั้นจะทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างหาย รวมไปถึงศีรษะได้ดีขึ้น อาการปวดไมเกรนจึงลดน้อยลง ท่าที่แนะนำคือ ท่าดอกบัว, ท่ายืนก้มตัว, ท่าขากรรไกร และท่าคันไถ เป็นต้น

8. ทำให้กินจุบจิบน้อยลง

คนที่เล่นโยคะเป็นประจำมักจะมีสติ รู้ตัวว่าตัวเองอิ่มแล้วจึงไม่ตามใจปาก จึงช่วยให้ลดการกินอาหารที่ไร้ประโยชน์ไปได้มากทีเดียวค่ะ

อุปกรณ์ ออกกำลังกาย 4 อย่าง สำหรับมือใหม่ฝึกโยคะ

อุปกรณ์ สำหรับฝึกโยคะ นั้นสำคัญมากๆ นะคะในสำหรับผู้ที่ฝึกเล่นโยคะทั้งมือใหม่ รวมทั้งคนที่ชำนาญอยู่แล้ว มีเพื่อนๆ พี่ๆ น้อง หลายคนนะคะ ที่เป็นคนตัวตึง ตัวแข็ง ทำไม่ได้ในหลายๆ ท่า ก็จะเริ่มรู้สึกท้อแท้ ไม่อยากจะฝึกแล้ว ฝึกต่อไม่ไหวมันยากเกินไปทำไม่ได้

วันนี้เราจะมาแนะนำ อุปกรณ์ 4 ไอเท็ม ที่จะมาช่วยผู้ฝึกเล่นโยคะใหม่ ทำให้การฝึกครั้งนี้รู้สึกแฮปปี้มากขึ้น ทำได้ง่ายมากขึ้น สบายมากขึ้นค่ะ

1. จิตใจ

เป็นเรื่องที่สำคัญมากที่สุดเลยนะคะ เป็นอะไรที่ง่าย แต่ก็ยากในเวลาเดียวกัน เพราะว่าการที่ทำให้จิตใจในการฝึกโยคะนั้นผ่อนคลายในหลายๆ คนอาจจะยาก

แต่อยากให้เรานั้นนึกว่าการไปฝึกโยคะนั้นเหมือนเราได้ไป ออกกำลังกาย ออกแรง ไปยืดเหยียดร่างกาย เป็นช่วงเวลาที่เราได้อยู่กับตัวเอง ให้เราฝึกอย่างมีความสุข อยู่กับลมหายใจ ให้เรารู้สึกว่าสบายๆ ชิลๆ

การที่เราได้เริ่มต้นด้วยความรู้สึกแบบนี้จะทำให้เราอยู่ในท่าโยคะอาสนะต่างๆ หรือว่าเคลื่อนไหวร่างกายมันจะไม่ตึง ไม่เกร็ง จะทำให้เราผ่อนคลายมากขึ้น เพราะฉะนั้นเรื่องแรกและสำคัญที่สุดคือเรื่องของใจค่ะ

2. เสื่อโยคะ

ถ้าคนที่เพิ่งเริ่มใหม่ๆ ยังไม่แน่ใจว่าจะชอบไหม ควรเลือกราคายังไงดี ? จริงๆ แล้วควรเลือกตามความเหมาะสมกับการใช้งานเป็นหลักก่อนเลย เช่น เราฝึกโยคะในลักษณะแบบไหน (แบบเริ่มต้น, แบบเริ่มฝึกบ่อยขึ้น, ฝึกแบบครูโยคะ) เพราะว่าเสื่อในแต่ละแบบก็จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป รวมไปถึงราคาที่แตกต่างกันด้วย แต่สำหรับผู้ฝึกใหม่นะคะ

สิ่งที่สำคัญเลยก็คือเลือกที่ รองรับน้ำหนักเราได้, มีความยืดหยุ่น, มีความหนึบ ยึดเกาะได้ดี เพราะว่าเราฝึกโยคะแล้วมีการลงน้ำหนักเราอาจต้องใช้เสื่อที่อาจจะคุณภาพไม่ต้องดีมากนัก หรือก็ไม่ได้ราคาถูกมากๆๆๆ จนเกินไป ซึ่งมันก็จะทำให้เสื่อมันยวบ บุ๋มลงไปได้ และเลือกความหนาของเสื่อที่ประมาณ 6 มิลลิเมตร

3. บล็อคโยคะ

สำหรับผู้ฝึกใหม่ การที่มีบล็อคก็เป็นตัวช่วยที่ดีเลยทีเดียวเหมือนกัน ซึ่งผู้ฝึกใหม่อาจจะมีอาสนะหลายๆ ท่ามากเลยที่อาจจะทำให้ตัวตึง ตัวแข็ง ทำไม่ได้ กดไม่ลงนะคะ การที่เรามีบล็อคก็จะทำให้ช่วยซับพอร์ตทำให้การเข้าท่าอาสนะต่างๆ ทำได้ถูกต้องมากขึ้นค่ะ

และบล็อคอาจจะช่วยสามารถต่อยอดไปยังท่าที่ยากๆ ได้มากขึ้น ท่าที่ต้องใช้กำลัง ใช้ร่างกายต่างๆ มากยิ่งขึ้น บล็อคก็จะช่วยซัปพอร์ต ช่วยยกตัวเองได้ดีขึ้น เหมือนเป็นแขนเป็นขาของเรา ทำให้เข้าอาสนะได้ลึกมากยิ่งขึ้นด้วยค่ะ

4. เชือก

เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ตัวช่วยที่ดีในการฝึกโยคะสำหรับผู้ฝึกใหม่ค่ะ ยกตัวอย่างเช่น ท่านั่งพับตัวไปจับปลายนิ้วเท้า สำหรับผู้ที่ฝึกใหม่นะคะ หรือใครที่อาการตัวตึงมากๆ ตัวแข็งมากๆ พับตัวไม่ลง ก็จะทำให้แตะไม่ได้ การที่มีเชือกก็จะเป็นอุปกรณ์อย่างนึงที่ช่วยให้เราเข้าอาสนะนั่งพับตัวได้ถูกต้องมากขึ้น บาลานซ์ตัวเองได้มากขึ้น

อาหารของผู้ฝึกโยคะ แบ่งเป็น 3 กลุ่ม

• Vegetarian (มังสวิรัติ) คือ ผู้เคร่งโยคะปานกลาง มักจะไม่ทานเนื้อสัตว์ เพราะเชื่อในหลักโยคะ “อหิมสา” (Ahimsa) คือ ไม่ฆ่าสัดว์ตัดชีวิต และไม่เชื่อในการเบียดเบียนสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ซึ่งมีหลายระดับ บางคนไม่กินเนื้อ แต่กินไก่และปลา บางคนไม่กินไก่แต่กินปลา
• Vegan (วีแกน) กลุ่มนี้นอกจากจะไม่กินเนื้อสัตว์ทุกชนิด แต่ยังไม่กินอาหารที่มาจากเนื้อสัตว์ เช่น ไม่ทาน นม, ไข่ ไม่ใส่เสื้อผ้าขนสัตว์เช่น มิ๊งค์โคท, ผ้าไหม เป็นต้น
• Carnivore (คาร์นิ) คือ กินทุกอย่างที่ขวางหน้าแต่พอประมาณ

*** ยาสีฟัน สมุนไพร Doctor V ไม่มีส่วนผสมจากสัตว์100% (ใช้ได้กับมังสวิรัติ และอิสลาม) ยิ่งใช้ สุขภาพเหงือก และฟันยิ่งดีขึ้น และดีขึ้น ***

เมนูอาหารหลังเล่นโยคะ ที่ช่วยควบคุมน้ำหนัก

คาร์โบไฮเดรต (แป้ง)

1. ข้าวกล้อง จะเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน แป้งในข้าวกล้องจะค่อยๆ เปลี่ยนน้ำตาลก่อนจะเข้าสู่ระบบกระแสเลือดอย่างช้าๆ และค่อยๆ ให้พลังงานแก่เรา ซึ่งจะทำให้เราไม่ค่อยหิว และอิ่มท้องนานด้วย

2. ฟักทอง เหมาะสำหรับคนที่อยากคุมน้ำหนัก ลดความอ้วนมากๆ เลยค่ะ

3. ผลไม้ (แอปเปิ้ลเขียว,ฝรั่ง) ให้คาร์โบไฮเดรตน้อยมากๆ ถ้าเทียบกับผลไม้ชนิดอื่น

4. ผักต่างๆ คือ ไฟเบอร์ ซึ่งจัดอยู่ในหมวดคาร์โบไฮเดรต แต่ว่าให้พลังงานไม่มาก แต่จะทำให้เราอิ่มท้องนาน และไม่ค่อยหิว

โปรตีน

1. เนื้อสัตว์ จำพวก เนื้อไก่, เนื้อหมู, เนื้อวัว (ไม่แนะนำปลาแซลม่อน เพราะมีปริมาณไขมันสูง)

2. ไข่ (ควรเป็นไข่ต้ม) เลือกกินแต่ไข่ขาวเท่านั้น เพราะถ้าเรากินไข่แดงด้วย เราจะได้แคลอรี่ที่มากเกินไปจากไขมันนะคะ

3. นมถั่วเหลือง ให้พลังงานน้อยมาก แต่ได้สารอาหารจำพวกโปรตีนเยอะ เหมาะสำหรับคนที่จะลดความอ้วนนะคะ

ไขมัน

1. ถั่ว เช่น อัลมอนด์, ถั่วลิสง, ถั่วทานตะวัน เป็นต้น เพราะการที่เราได้เคี้ยวเป็นเวลานานๆ ก็จะทำให้รู้สึกอิ่มท้อง

2. อโวคาโด จะให้ไขมันที่ดีแก่ร่างกาย เราสามารถนำไปกินกับสลัดกับอาหารอื่นๆ ได้ตามต้องการเพิ่มให้อิ่มท้อง

การกินผัก ผลไม้ ช่วยป้องกันฟันผุได้อย่างไร ?

การกินผักและผลไม้สดสามารถป้องกันฟันผุได้ จากการเคี้ยวเส้นใยในผักผลไม้ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้มีการหลั่งน้ำลายมากขึ้น สามารถเจือจางสภาพความเป็นกรดในช่องปากได้เป็นอย่างดี และระหว่างการเคี้ยวเส้นใยในอาหารกลุ่มนี้ยังเป็นการทำความสะอาดผิวฟันอีกด้วย 10 อาหาร ผัก ผลไม้ ที่ช่วย กำจัดกลิ่นปาก หาได้ง่าย

แต่ทั้งนี้ควรพิจารณาให้ดี เพราะการกินผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวมากๆ มีความเป็นกรดสูง สามารถทำลายผิวเคลือบฟัน ทำให้ฟันสึกกร่อนได้ หรือการกินผลไม้ที่มีรสหวานมากๆ ปริมาณน้ำตาลในผลไม้ก็สามารถทำให้เกิดฟันผุได้เช่นกัน ภายหลังการรับประทานผลไม้ รสเปรี้ยว หรือหวานมากๆ ควรดื่มน้ำเปล่าตาม

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 5 ปัญหาสุขภาพ ช่องปาก ที่พบมากในช่วงวัยทำงาน
• ใบหน้า ปาก ลิ้น บริหารได้ง่ายๆ ด้วยการทำ…โยคะใบหน้า