ข้าวเหนียวมะม่วง (Mango sticky rice) กินอย่างไรให้บำรุงสุขภาพ

ข้าวเหนียวมะม่วง

ข้าวเหนียวมะม่วง กับกระแสของ มิลลิ (Milli) แร็ปเปอร์ของไทยที่โชว์บนเวที Coachella ทำให้ข้าวเหนียวมะม่วง เป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมสุดๆ ในเวลานี้ค่ะ ข้าวเหนียวมะม่วงเป็นเมนูของหวานยอดนิยมที่คนไทยเรารู้จักกันดี แต่การรับประทานเมนูนี้ต้องพึงระวัง เพราะถึงแม้จะอร่อยดีมีประโยชน์ แต่ก็มีโทษเหมือนกันค่ะ

สารบัญ

เทคนิคการกิน ข้าวเหนียวมะม่วง ไม่เพิ่มพุง

ข้าวเหนียว มะม่วง

ทุกฤดูร้อนของเมืองไทย ก็จะมีอาหารหวานยอดนิยมอยู่อย่างนึงนะคะ ที่ทุกคนรู้จักและก็คุ้นเคยกันดี ซึ่งนั่นก็คือข้าวเหนียวมะม่วง มะม่วงสุกที่กินกับข้าวเหนียวนั้นนะคะ จะมีวิตามินและก็แร่ธาตุหลายอย่าง ถ้าอยากได้ชนิดที่มีเนื้อเยอะวิตามินเอเยอะ ให้เลือกเป็นมะม่วงน้ำดอกไม้ซึ่งจะเป็นมะม่วงที่มีเบต้าแคโรทีนที่สูงค่ะ

เทคนิคการกิน ข้าวเหนียวมะม่วง ไม่เพิ่มพุง

1. ให้หนักมะม่วงมากกว่าข้าวเหนียว
2. ใช้ข้าวเหนียวดำเพราะมีไฟเบอร์และแอนตี้ออกซิแดนท์ชั้นดี
3. มื้อใดกินข้าวเหนียวมะม่วงมื้อนั้นไม่ควรรับประทานข้าวแล้ว
4. ให้ถือข้าวเหนียวมะม่วงเป็นอาหารมื้อหนักมื้อหนึ่ง
5. รับประทานทีละชุดเล็ก เช่น มะม่วงหนึ่งลูกต่อข้าวเหนียวมูนขนาดเท่ามะม่วงครึ่งลูก
6. ขอให้รับประทานช่วงเที่ยงจะดีกว่าก่อนนอน

ข้าวเหนียวมูลนั้นจะมีแคลลอรี่ที่สูงนะคะจึงไม่เหมาะกับผู้ป่วยเบาหวาน แต่ถ้าอยากกินข้าวเหนียวมะม่วงให้เน้นกินที่มะม่วงมากกว่ากินข้าวเหนียว

เพราะในเนื้อมะม่วงนั้นจะมีกาก ช่วยไม่ให้น้ำตาลซึมเข้าไปในเลือดได้เร็วเกินไป ไม่เหมาะกับผู้ที่มีภาวะไขมันในเลือดสูงและก็ความดันโลหิตสูงค่ะ เพราะว่าข้าวเหนียวมูลกับกะทินั้นจะมีความมันมาก

ประโยชน์ของ ข้าวเหนียวมะม่วง

มะม่วงสุก

กะทิในข้าวเหนียวมูลนั้นช่วยทำให้วิตามินเอและวิตามินอีจากมะม่วงดูดซึมได้ดี และในเนื้อมะม่วงสุกนั้นยังจะช่วยชะลอให้น้ำตาลจากข้าวเหนียวดูดซึมช้าลงด้วยค่ะ

ข้าวเหนียวมะม่วงยังเป็นของหวานที่ให้พลังงานสูงด้วยค่ะ ในมะม่วงนั้นจะมีไฟเบอร์สูงช่วยทำให้สดชื่นในผู้ที่เบื่ออาหาร การทานข้าวเหนียวมะม่วงนั้น นอกจากจะช่วยให้ประโยชน์ต่อร่างกายแล้วนะคะ

ข้าวเหนียวมะม่วงนอกจากกจะอร่อยแล้ว ก็ยังมีโทษด้วยนะคะ เพราะว่าเป็นอาหารที่ให้พลังงานสูง ซึ่งจะไม่เหมาะกับผู้ที่มีน้ำหนักเกินค่ะ

ส่วนแป้งในข้าวเหนียวนั้นก็จะเปลี่ยนไขมันไตรกลีเซอไรด์ได้ค่ะ กะทิกับข้าวเหนียวนั้นก็ยังจะมีธาตุเค็มที่ไปเร่งความดันสูงอีกด้วย เพราะมะม่วงสุกหวานกับข้าวเหนียวหวานมันนั้นก็ยังจะไปกระตุ้น การอักเสบและการร้อนในได้ด้วยค่ะ แผลร้อนใน แผลในปาก เสียวฟัน ปัญหายอดฮิตของคนไทย

และถ้าหากทานข้าวเหนียวมะม่วงร่วมกับอาหารมื้อหลักนั้นนะคะ ก็อาจจะทำให้นอนไม่หลับค่ะ รู้สึกไม่สดชื่นเพราะว่าให้พลังงานสูงจนเกินไป ดังนั้นจึงควรทานของอร่อยอย่างข้าวเหนียวมะม่วงแต่พอดีนะคะ ซึ่งนอกจากจะได้ลิ้มรสความอร่อยของข้าวเหนียวมะม่วงแล้ว เราก็ยังจะได้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์จากธรรมชาติอีกด้วยค่ะ

วัตถุดิบและส่วนผสมในการทำ ข้าวเหนียวมะม่วง

ข้าวเหนียว 350 กรัม
กะทิ 1 กระป๋อง
น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วย
เกลือ 1+1/4 ช้อนชา
แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนชา
ใบเตย 4-5 ใบ

สูตรกะทิราด ข้าวเหนียวมะม่วง

หัวกะทิ 1 ถ้วย
เกลือ1 ช้อนชา
แป้งข้าวโพด + น้ำ 1-2 ช้อนชา

วิธีทำ ข้าวเหนียวมะม่วง

วิธีทำข้าวเหนียวมะม่วง

1. ล้างข้าวเหนียวให้สะอาดแล้วแช่น้ำทิ้งไว้ข้ามคืน

2. เติมน้ำลงในซึ้งนึ่ง นำขึ้นตั้งไฟค่อนข้างแรง รอจนน้ำเดือด จากนั้นสะเด็ดน้ำข้าวเหนียวขึ้นมาห่อผ้าขาวบาง วางใบเตยลงไปประมาณ 2 ใบ แล้วนำไปนึ่ง

3. นึ่งประมาณ 30 นาทีจนข้าวเหนียวสุก

4. นำกะทิมาแบ่งไว้ 3/4 ถ้วย สำหรับกะทิส่วนที่เหลือให้นำไปใส่หม้อเล็กๆ เติมน้ำตาลและเกลือ 1 ช้อนชาลงไป จากนั้นนำไปตั้งบนไฟอ่อน

5. ใส่ใบเตยที่เหลือลงในหม้อกะทิ ใช้ทัพพีคนเรื่อยๆ จนน้ำตาลละลาย อย่าให้กะทิเป็นก้อน รอจนกะทิเดือดจึงปิดเตาและยกลงพักไว้

6. ตักข้าวเหนียวที่สุกแล้วใส่ลงในอ่างผสม เทกะทิร้อนๆ ใส่ลงไป คนเร็วๆ ให้ทั่วแล้วปิดฝาให้ข้าวเหนียวระอุอีกประมาณ 15 นาที

7. นำกะทิ 3/4 ถ้วยที่แบ่งไว้มาผสมกับแป้งข้าวเจ้าและเกลือ นำไปตั้งไฟแล้วคนเรื่อยๆ จนกะทิข้นและเดือด เพื่อใช้เป็นกะทิสำหรับราดหน้า

8. ตักข้าวเหนียวใส่จาน ราดด้วยน้ำกะทิที่เตรียมไว้ เสิร์ฟพร้อมมะม่วงสุก

ทาน ข้าวเหนียวมะม่วง แล้ว…อย่าลืมแปรงฟันด้วย ยาสีฟันสมุนไพร Doctor V นะคะ

จุดเด่นของ ยาสีฟัน Doctor V คือ เป็นยาสีฟันสูตรเข้มข้น ไม่ผสมแป้ง ทำให้มีประสิทธิภาพรักษาความสะอาดได้อย่างดีเยี่ยม ฟองครีมนุ่มเหมือนวิปครีมโดยมีคุณสมบัติที่เป็นจุดเด่นอยู่ 3 ข้อ คือ

1. ปกป้องเหงือก
2. ลดอาการเสียวฟัน
3. ลดกลิ่นปากได้ยาวนาน

ที่สำคัญมีการปรับสมดุลให้เกิดขึ้นภายในช่องปาก จากภาวะกรดอ่อนๆให้กลายเป็นด่าง จึงทำให้แบคทีเรียตัวดีสามารถเติบโตได้ ขณะเดียวกันก็กำจัดแบคทีเรียตัวร้ายออกไปได้ด้วย ทำให้เกิดภูมิคุ้มกันเกิดขึ้นในช่องปาก สุขภาพเหงือกและฟันแข็งแรง

บทความที่เกี่ยวข้อง

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อเรา

Phone : +662-102-5920
Fax : +662-102-5920
E-Mail : doctorvofficial@gmail.com
แผนที่(คลิกเพื่อดูรายละเอียด)
LINE:@DOCTORV

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Fanpage
https://www.facebook.com/DoctorvOfficial

ติดตามช่อง Youtube
https://www.youtube.com/channel/UCT1GCI52CLf6BDfe77vtBtQ


สามารถสั่งซื้อได้ที่  >>  Line: @doctorv
http://line.me/ti/p/%40doctorv

Scan QR CODE

ยาสีฟัน สมุนไพร  Doctor V ได้ใส่สารสกัดจากสมุนไพรถึง 12 ชนิด เช่น เห็ดหลินจือ, โสม, Propolis เป็นต้น เป็นสารสกัดที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพ แต่ก็นำมาด้วยต้นทุนที่สูง แต่ด้วยความที่มีไอเดียในการทำสินค้า

และธุรกิจของครอบครัวเป็นเจ้าของโรงงานผลิตเครื่องสำอาง เลยมีทีม R&D ที่สามารถหาวัตถุดิบที่ต้องการมาได้หมด ทำให้ได้ ยาสีฟัน ตามสูตรที่คิดค้นโดยไม่ต้องกังวลเรื่องต้นทุนแต่อย่างใด


Ldc กรุงเทพฯ ปริมณฑล / Ldc ต่างจังหวัด / ร้าน HEALTHY MAX 7 สาขา / ร้านออร์แกนิคปลอดสารพิษ / DENTAL CLINIC / สบายใจ / FOODLAND กทม. / FOODLAND ตจว. / VILLA MARKET กทม.ปริมณฑล / VILLA MARKET ตจว. / TOP MARKET / ร้านภูมิใจไทยมี 20 สาขา / Beauty Buffet / Market Place Online (Shopee / Lazada / JD Central / Fanpage : DoctorvOfficial)


Doctor V™ ยาสีฟัน ฟันขาว สมุนไพร สูตรพิเศษ ทำให้ ฟันขาวขึ้น อีกทั้งยังช่วย ลดดกลิ่นปาก, บำรุงเหงือก, ปกป้อง เหงือกบวม อักเสบ, ลด เสียว ฟัน โดยทีมงานแพทย์แผนปัจจุบัน ที่ตระหนักถึงคุณค่าของ สมุนไพรไทย และธรรมชาติ

เพื่อให้มั่นใจถึงความบริสุทธิ์ และคุณภาพ Doctor V™เลือกใช้เฉพาะส่วนผสมจากธรรมชาติบริสุทธิ์ 100 % จากพืชเพื่อให้ทุกเพศทุกวัยสามารถได้รับประโยชน์ ของผลิตภัณฑ์พรีเมี่ยมจากธรรมชาตินี้