วันหมดอายุ ของยาสีฟันดูตรงไหน และมีลักษณะยังไง?

วันหมดอายุ ของยาสีฟันก็มีเช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ การหมดอายุของยาสีฟัน เกิดจากส่วนประกอบในยาสีฟันเสื่อมสภาพเมื่อเวลาผ่านไป ทำให้ผู้ใช้ได้ประโยชน์จากยาสีฟันไม่เต็มที่ แต่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายแต่อย่างใด

ยาสีฟันที่หมดอายุ นอกจากสารฟลูออไรด์ (ซึ่งมีคุณสมบัติเพิ่มความแข็งแรงให้กับชั้นเคลือบฟัน ช่วยป้องกันฟันผุ) จะมีประสิทธิภาพลดลงแล้ว อาจพบลักษณะดังนี้

สารบัญ

• ลักษณะของยาสีฟันกับ วันหมดอายุ
• แถบสีบนหลอดยาสีฟันเกี่ยวกับ วันหมดอายุ หรือไม่?
• ใช้ยาสีฟันที่เกิน วันหมดอายุ ทำให้ปากแห้งหรือไม่?

ลักษณะของยาสีฟันกับ วันหมดอายุ

1. เนื้อยาสีฟันแห้ง หนืดมากขึ้น
2. เนื้อยาสีฟันมีการแยกชั้น ไม่เป็นเนื้อเดียวกัน
3. อาจพบการเจริญเติบโตของเชื้อรา หรือเชื้อแบคทีเรีย

ทั้งนี้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งประเทศอเมริกา (Food and Drug Administration : FDA) และทันตแพทยสมาคมแห่งประเทศอเมริกา (American Dental Association : ADA) ได้กำหนดให้ระบุวันหมดอายุบนหลอดยาสีฟันและกล่องบรรจุ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีระยะเวลา 3 ปี นับจากวันที่ผลิต

แถบสีบนหลอดยาสีฟันเกี่ยวกับ วันหมดอายุ หรือไม่?

แถบสีที่ปลายหลอดยาสีฟัน มีไว้ให้เซ็นเซอร์ของเครื่องจักรตรวจสอบ และซีลปลายหลอดให้ตรงกันทุกหลอด โดยสีที่ปลายหลอดจะเป็นสีที่เห็นได้ชัดตัดกับสีของหลอดยาสีฟัน เช่น สีแดง สีเขียว สีดำ เพื่อให้เครื่องจักรสามารถตรวจสอบได้ง่าย ไม่ได้เกี่ยวข้องกับส่วนผสมของยาสีฟันแต่อย่างใด

ใช้ยาสีฟันที่เกิน วันหมดอายุ ทำให้ปากแห้งหรือไม่?

อาการปากแห้ง หมายถึง การไม่มีน้ำลายที่เพียงพอเพื่อให้ปากชุ่มชื้น สาเหตุที่ทำให้ปากแห้งเกิดจากต่อมน้ำลายในปากไม่ผลิตน้ำลายออกมา หรือผลิตน้ำลายน้อยเกินไป ทำให้ไม่มีความชุ่มชื้นเพียงพอ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้การทำงานของต่อมน้ำลายผิดปกติจนทำให้ปากแห้ง มีดังนี้

1. เกิดจากภาวะขาดน้ำ สาเหตุนี้อาจเกิดจากการป่วย เป็นไข้ หรือจากพฤติกรรมอื่น การใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ดื่มน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เสียเหงื่อปริมาณมาก เกิดอาการอาเจียน ท้องเสีย หรือถูกไฟไหม้

2. ผลข้างเคียงจากการใช้ยาบางชนิด เช่น ยาคลายเครียด ยาแก้แพ้ ยาลดน้ำมูก ยาแก้ปวดบางชนิด ยาขับปัสสาวะ ยาลดความดันโลหิต และยาเบาหวาน

3. ผลข้างเคียงของโรคบางชนิด โรคที่มีผลกระทบต่อต่อมน้ำลาย เช่น โรคเบาหวาน โรคพาร์กินสัน โรค HIV/AIDS และโรคภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติแบบเรื้อรัง (Sjogren’s Syndrome) สามารถนำไปสู่อาการปากแห้งได้

4. เกิดจากเส้นประสาทเสียหาย อาจเกิดจากการผ่าตัดหรือการได้รับบาดเจ็บที่บริเวณศีรษะ หรือบริเวณคอ ซึ่งสามารถทำให้เกิดภาวะปากแห้งได้

5. การได้รับการฉายรังสีรักษา ต่อมน้ำลายอาจได้รับผลกระทบ ในส่วนศีรษะและลำคอเมื่อได้รับการฉายรังสีรักษาโรคมะเร็ง การสูญเสียต่อมน้ำลายอาจจะเป็นเพียงบางส่วนหรือทั้งหมดของช่องปาก และอาจเป็นอาการชั่วคราวหรือถาวรได้

6. การได้รับเคมีบำบัด ยาที่ใช้ในการรักษามะเร็งสามารถทำให้น้ำลายมีความเหนียวขึ้น ทำให้รู้สึกปากแห้ง และเนื้อเยื่อช่องปากมีลักษณะอักเสบ (mucositis)

7. การหมดประจำเดือน ระดับฮอร์โมนที่เปลี่ยนไปส่งผลต่อต่อมน้ำลาย ทำให้ผู้หญิงมีอาการปากแห้งในช่วงหลังจากมีประจำเดือนและในวัยหมดประจำเดือน

8. เกิดจากการใช้สารเสพติด เช่น ยาเสพติด สูบบุหรี่ หรือดื่มแอลกอฮอล์ อีกทั้งยังทำให้อาการปากแห้งรุนแรงขึ้น และสร้างความเสียหายต่อฟันและสภาวะ โรคปริทันต์ อักเสบ

บทความที่เกี่ยวข้อง

• เด็ก กลืนยาสีฟัน เป็นอันตรายหรือไม่ ?
• ดื่มน้ำเย็น เสียวจี๊ดที่ฟัน ทำยังไงดี ?