แคลเซียม วิตามินดี ลดความรุนแรงของโรคปริทันต์อักเสบ

แคลเซียม วิตามินดี และแมกนีเซียม แมกนีเซียม ช่วยลดความลึกของร่องลึกปริทันต์ ลดความรุนแรงของโรคปริทันต์อักเสบ และส่งเสริมการคงอยู่ของฟัน

แคลเซียม และวิตามินดี มีส่วนช่วยในการเพิ่มความหนาแน่นของกระดูกบริเวณรอบฟัน และอวัยวะปริทันต์ซึ่งส่งผลต่อการคงอยู่ของฟัน จากการศึกษาพบว่าการได้รับ ประมาณวิตามินดีที่เหมาะสมระหว่างการสร้างฟันสามารถลดความถี่ในการเกิดฟันผุได้

นอกจากนี้ยังช่วยลดการเกิดเหงือกอักเสบ ลดความรุนแรงของโรคปริทันต์อักเสบ และลดปริมาณแบคทีเรียในช่องปาก การขาดวิตามินดีส่งผลต่อการสร้างเคลือบฟัน ทำให้เกิดการสร้างชั้นเคลือบฟันที่ไม่สมบูรณ์และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคฟันผุและเพิ่มความรุนแรงในการเกิดโรคฟันผุ

วิตามินอื่นๆ จากการศึกษาพบว่า วิตามินต่างๆ มีความสัมพันธ์กับการเกิดฟันผุ การป้องกันฟันผุและกระบวนการสร้างฟัน ซึ่งกระบวนการสร้างฟันจำเป็นต้องใช้วิตามินในปริมาณที่เหมาะสมต่อการสะสมแร่ธาตุในการสร้างฟัน เช่น วิตามินเอ ซี และ ดี วิตามินซี มีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนซึ่งเป็นส่วนประกอบของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันของเหงือก

การขาดวิตามินจึงส่งผลกระทบต่อสุขภาพช่องปาก เช่น การขาดวิตามินเอส่งผลต่อกระบวนการสร้างฟันทำให้เกิดความผิดปกติในการสร้างฟัน นำไปสู่การเกิดอีนาเมลไฮโปเพลเซีย

นอกจากนี้ยังส่งผลต่อการเกิดโรคปริทันต์อักเสบ อีกทั้งส่งผลต่อการฝ่อของต่อมน้ำลาย ทำให้การหลั่งน้ำลายลดลงเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคฟันผุ

ประเภทของอาหารที่มี ความเสี่ยงต่ำ ต่อการเกิดฟันผุ

ได้แก่ เนื้อสัตว์ ไข่ ชีส ปลา ถั่ว และนม การบริโภคชีสและนมสามารถป้องกันการสูญเสียแร่ธาตุของฟันได้

นมวัวประกอบด้วย แคลเซียม ฟอสฟอรัส เคซีน และโปรตีนอื่นๆ ที่ช่วยป้องกันฟันผุ ทั้งนี้นมวัวมีแลคโทสเป็นส่วนประกอบ ซึ่งแลคโทสมีส่วนในการส่งเสริมให้ฟันผุ แต่นักวิชาการพบว่าแลคโทสเป็นน้ำตาลที่มีความเสี่ยงต่ำต่อการเกิดฟันผุ จึงสรุปได้ว่านมวัวเป็นอาหารที่ช่วยป้องกันฟันผุ

นอกจากนี้การบริโภคอาหารและเครื่องดื่ม เช่น หมากฝรั่งปราศจากน้ำตาล มะนาว และชีส จะช่วยกระตุ้นการหลั่งของน้ำลาย ซึ่งเป็นการลดการเกิดฟันผุ

ประเภทของอาหารที่มี ความเสี่ยงสูง ต่อการเกิดฟันผุ

ได้แก่ อาหารที่ประกอบด้วยน้ำตาลอิสระได้แก่ น้ำผึ้ง น้ำเชื่อม น้ำผลไม้ น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง ชา กาแฟ และอาหารที่เติมน้ำตาลอิสระ

เนื่องจากน้ำตาลอิสระเป็นสาเหตุของการเกิดฟันผุ น้ำตาลอิสระ คือ น้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวและคู่ที่เป็นส่วนประกอบของผลไม้แปรรูป น้ำผึ้ง น้ำเชื่อม น้ำผลไม้ และน้ำตาลที่เติมเพิ่มในอาหาร

องค์การอนามัยโลกแนะนำให้บริโภคน้ำตาลอิสระน้อยกว่าร้อยละ 10 ของพลังงานทั้งหมดที่ได้รับต่อวัน โดยคาดหวังผลทางสุขภาพได้แก่ การลดความเสี่ยงการเกิดฟันผุ และลดการเกิดภาวะน้ำหนักเกิน

บทความที่เกี่ยวข้อง

• รักษารากฟัน ทำไมถึงต้องรักษา มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง ?
• โรคปริทันต์ อักเสบ คืออะไร ? นำไปสู่การสูญเสียฟันจริงไหม