คำถามยอดฮิต และความเชื่อผิดๆ ของสุขภาพช่องปาก

คำถามยอดฮิต เกี่ยวกับสุขภาพช่องปาก ที่คนไข้มักจะถามคุณหมอฟัน ซึ่งจะเป็นสิ่งที่หลายท่านน่าจะสงสัย และต้องการคำตอบที่ถูกต้อง ถึงขนาดตั้งหาข้อมูลจาก Google โดยที่ไม่รู้เลยว่าข้อมูลนั้นเชื่อถือได้จริงไหมนะคะ

ถ้าอย่างนั้นเรามาไขข้อข้องใจกันเลยดีกว่าค่ะ ว่าความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับสุขภาพช่องปากนั้นมีอะไรบ้างกันคะ

สารบัญ

• 10 คำถามยอดฮิต เกี่ยวกับ “สุขภาพช่องปาก”
• จุดเด่นของ ยาสีฟัน Doctor V

10 คำถามยอดฮิต เกี่ยวกับ “สุขภาพช่องปาก”

1. ปวดฟัน แล้วให้อมเกลือ

จริงๆ แล้วการอมเกลือ อาจจะช่วยบรรเทาอาการได้ในระดับหนึ่ง ต่อย่างไรก็ตามเมื่อมีอาการปวดที่เยอะแล้ว อมเกลือ น้ำเกลือ ไม่สามารถที่จำกำจัดเชื้อโรคพวกนั้นได้หมดค่ะ การรักษาด้วยตนเองเมื่อ ปวดฟัน

รวมถึงฟันผุเมื่อผุไปแล้วก็ไม่สามารถที่จะใช้เกลือย้อนให้ฟันที่ผุกลับมาเป็นฟันที่ไม่ผุได้นะคะ ปล่อยไปนานๆ จนฟันผุ จนทีละโพรงประสาทฟันหรือเป็นโรคเหงือกที่ค่อนข้างรุนแรง การรักษาก็จะยากขึ้นตามมานะคะ

2. จัดฟัน ทำให้หน้าเรียว

การจัดฟันเนี่ยนะคะ ในบางกรณีถามว่าช่วยให้หน้าเรียวได้ไหม ช่วยได้บ้างในบางกรณี อย่างเช่น คนไข้ที่มีการสบฟันแบบผิดปกติ ก็คือมีฟันยื่นมากๆ นะคะ

หรือในบางกรณีที่มีการผิดปกติที่ตัวกระดูก แล้วก็ต้องมีการผ่าตัดขากรรไกรร่วมกับการจัดฟันด้วย สำหรับกรณีพวกนี้ทำเสร็จทุกอย่างแล้วหน้ามักจะเรียวลง

แต่คนไข้บางคนที่อาจจะมีน้ำมีนวลนิดนึง จัดฟันแล้วอาจจะมีอาการปวดฟันเล็กน้อย ซึ่งทำให้คนไข้อาจจะเคี้ยวอะไรลำบาก

คนไข้ท่านนั้นก็อาจจะกินอาหารได้น้อยลง คนทั่วไปรอบข้างก็รู้สึกว่าเพื่อนฉันหน้าเรียวลงนะ จริงๆ ก็อาจจะเกิดจากที่เขาอาจจะกินอะไรไม่ค่อยได้ ก็เลยทำให้เค้าผอมลง และทำให้หน้าเรียวลง

เพราะฉะนั้นไม่ใช่การจัดฟันทุกอย่างที่จะช่วยให้หน้าเรียวได้ ก็เลยเป็นความเชื่อที่อาจจะมีความเข้าใจผิดนะคะ จัดฟัน แล้วฟันผุ ต้องทำยังไง ? แล้วจะอุดฟันได้ไหม

3. น้ำยาบ้วนปาก ขจัดคราบหินปูนได้รวดเร็วทันใจ

ความเชื่อที่ว่าน้ำยาบ้วนปากจะกำจัดคราบหินปูนได้ทันทีทันใดเลย เกลี้ยงสะอาดเลย เป็นความเชื่อที่ผิดนะคะ เพราะว่าสรรพคุณหลักๆ ของน้ำยาบ้วนปากคือ มีฟูลออไรด์ อาจจะช่วยยับยั้งการเกิดฟันผุได้บ้าง

ซึ่งจะมีอยู่ช่วงนึงที่มีการแชร์กันเยอะๆ ว่าบ้วนปากทีเดียวคราบดำๆ ที่อยู่ในปากหลุดออกมาหมดเลยอันนั้นจะเป็นน้ำยาเคมีตัวหนึ่งที่มีฤทธิ์ในการกัดกร่อนฟัน หรือว่ากำจัดคราบหินปูนได้ดีมาก

ซึ่งน้ำยาพวกนี้คุณสมบัติคล้ายน้ำยาล้างห้องน้ำเลย เพราะฉะนั้นถ้าเราจะหวังผลจากน้ำยาบ้วนปาก ใช้เวลาไม่นานมากในการกำจัดคราบนั้นเป็นไปไม่ได้เลย น้ำยาบ้วนปาก สลายหินปูนให้หลุด ได้จริงไหม ?

4. ฟันปลอม ซื้อได้จากอินเทอร์เน็ต

อันนี้ก็เป็นความเชื่อที่เพิ่งเกิดขึ้น น่าจะมาตามสภาวะการช้องปิ้งของคนปัจจุบัน ก็คือซื้อของออนไลน์กันมากขึ้น (Shopee, Lazada) สำหรับฟันปลอมเป็นสิ่งที่จำเป็นที่จะต้องมีการตรวจ และทำโดยทันตแพทย์ผู้มีความรู้

เราไม่สามารถเอาฟันปลอมของคนๆ นี้ไปใส่กับอีกคนนึงได้นะคะ เพราะฉะนั้นการสั่งซื้อฟันปลอมทางอินเทอร์เน็ตซึ่งทำมาเหมือนๆ กันหมด มันไม่สามารถที่จะใส่ลงใปในปากของคนๆ นั้นได้อย่างแน่นอนนะคะ

เพราะฉะนั้นจะต้องทำโดยทันตแพทย์ที่มีความรู้เท่านั้น ฟันปลอม มีกี่แบบ แบบไหนเหมาะกับเรา ?

5. ใช้มะนาวขัดฟัน ช่วยให้ฟันขาวขึ้นได้

สำหรับความเชื่อที่ว่า เอาน้ำมะนาวสดๆ แล้วมาถูกับฟันจะทำให้ฟันขาวขึ้น จริงๆ แล้วเป็นความเชื่อที่ผิดนะคะ ฟันที่มีการเปลี่ยนสีเกิดจากอะไร? ซึ่งจะมีด้วยกัน 2 สาเหตุ คือ เกิดจากการที่มีสีจากภายนอกมาสะสมที่บริเวณผิวฟัน / เกิดจากฟันของตัวเองมันมีความเหลือง

กรณีที่เกิดจากการติดสีบริเวณภายนอกฟันเนี่ยนะคะ การทำความสะอาดฟัน จริงๆ ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำมะนาว แค่ใช้การทำความสะอาดปกติทั่วไปอย่างถูกวิธี ก็จะช่วยให้ฟันขาวขึ้นได้

แต่ถ้าในกรณีที่เกิดจากภาวะของเนื้อฟันคนไข้มีความเหลือง ต่อให้เราทำความสะอาดแค่ไหน ต่อให้เราเอาน้ำมะนาวมาเป็นลิตรๆ มาถูที่ฟันของเรา ยังไงก็ไม่หายเหลืองค่ะ ยิ่งเราใช้น้ำมะนามถูฟันมากเท่าไร ชั้นเคลือบฟันด้านนอกของเราก็จะบางลงไปมากขึ้นเท่านั้น

พอผิวเคลือบฟันบางลง เนื้อฟันที่อยู่ด้านในจะเป็นสิ่งที่มีความเหลืองมากกว่า เพราะฉะนั้นยิ่งถู จะยิ่งเหลือง แต่ถ้าฟันเหลืองจากเนื้อฟันด้านใน สามารถใช้การฟอกสีฟันโดยทันตแพทย์ ก็จะช่วยให้เนื้อฟันที่มันเหลืองขาวขึ้นมาได้ค่ะ และต้องทำภายใต้การดูแลและควบคุมโดยทันตแพทย์ค่ะ

6. ขูดหินปูน ทำให้ฟันห่าง

สำหรับความเชื่อที่ว่า การใช้ไหมขัดฟันบ่อยๆ หรือว่าขูดหินปูนบ่อยๆ จะทำให้เกิด ฟันห่าง จริงๆ ก็เป็นความเชื่อที่ผิดเช่นกันค่ะ ในกรณีที่คนไข้มีภาวะโรคเหงือก หรือมีภาวะที่เศษอาหารติดตามซอกฟันเยอะๆ หรือมีหินปูนนะคะ

เศษสะสมพวกนี้ก็จะติดอยู่ระหว่างฟัน เราก็จะรู้สึกว่าระหว่างฟันมันเต็ม แต่ว่าจะเต็มไปด้วยสิ่งที่มันไม่สมควรอยู่นะคะ เราก็จะรู้สึกว่าทันตแพทย์เป็นคนทำให้เราฟันห่างหรือเปล่า

ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่เลย คือภาวะเหงือกร่นเป็นภาวะที่คนไข้มีอยู่แล้ว ถ้าเราไม่เอาหินปูนหรือเศษอาหารที่ติดอยู่ตรงนั้นออก เพื่อให้ฟันดูเต็มรูเหมือนเดิมก็เป็นไปไม่ได้ เพราะว่าถ้าเรายิ่งสะสมะพวกนั้นเอาไว้ เหงือกก็จะยิ่งร่น รวมถึงถ้าเป็นมากๆ ฟันจะโยก หรือสุดท้ายต้องถอนฟันไปเลยก็ได้ค่ะ

7. ลูกในท้อง ขโมยแคลเซียมจากแม่

ความเชื่อสำหรับกรณีคุณแม่ตั้งครรภ์แล้วฟันผุ แล้วไปโทษลูกในท้องว่าลูกเอาแคลเวีวมจากฟันของเราไป แล้วทำให้ฟันผุ จริงๆ แล้วเป็นความเชื่อที่ผิดมากๆ และเป็นความเชื่อที่ค่อนข้างโบราณด้วยซ้ำค่ะ

เพราะว่าแคลเซียมหรือแร่ธาตุที่อยู่ในฟันจะไม่เหมือนกับในกระดูกนะคะ คือแคลเซียมในร่างกายของคนเรา ส่วนใหญ่จะสะสมที่กระดูก เป็นแหล่งในการเก็บสะสมตัวแคลเซียม เวลาร่างกายของเราต้องการใช้แคลเซียมก็จะมีการดึงมาจากกระดูก แต่มันจะดึงจากฟันไม่ได้

• ตั้งครรภ์ จะฟันผุง่ายเพราะลูกแย่งแคลเซียม จริงหรือไม่ ?

คุณแม่หลายท่านลองคิดดูให้ดีๆ เรามีเวลาดูแลตัวเองมากขึ้นหรือเปล่า เราทานอาหารจุกจิกมากขึ้นไหม เรามีอาการแพ้ท้อง มีอาการอาเจียนทำให้มีกรดไปสัมผัสที่ฟันมากขึ้นหรือเปล่า เพราะว่าทุกอย่างพวกนี้จะทำให้เกิดฟันผุได้ทั้งนั้น ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับลูกในครรภ์เลย

8. ฟันน้ำนม ผุได้ไม่ต้องไปสนใจ

สำหรับความเชื่อที่ว่า ฟันน้ำนมสามารถปล่อยทิ้งได้เลย ผุแค่ไหนก็รอถอนได้เลยยังไงก็มีฟันแท้รอขึ้นอยู่ เป็นความเชื่อที่ผิดมหันต์เลยค่ะ

เพราะว่าฟันน้ำนมจริงๆ แล้ว มันจะมีระยะเวลาในการที่จะคงอยู่ในช่องปากของคนเราอยู่ ซึ่งถ้าเกิดถูกถอนหรือหลุดเร็วเกินไป สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาก็คือ ฟันแท้อาจจะมีการเรียงกันที่ผิดปกติได้ อาจจะมีการซ้อนเกมากขึ้น ซึ่งถ้ากรณีที่มีฟันผุมากๆ จนเกิดเป็นหนองจะทำให้เกิดภาวะที่ผิวฟันของฟันแท้ที่อยู่ข้างใต้เกิดความผิดปกติได้ รวมถึงจะทำให้ฟันแท้นั้นขึ้นช้าลงด้วย

เพราะฉะนั้นถ้าลูกหลานของท่านเกิดภาวะฟันผุเล็กน้อย ห้ามรออยู่ที่บ้าน เพราะว่าการที่เราปล่อยใฟ้ฟันน้ำนมมีการผุมาก สุดท้ายก็คือการถอน พาลูกหลานมาพบคุณหมอเพื่อมาถอนฟัน จริงๆ แล้วเป็นการสร้างความทรงจำที่ไม่ค่อยดีให้กับเด็กนักนะคะ และเวลาที่เค้าโตขึ้นมาเค้าก็จะไม่อยากมาพบทันตแพทย์

9. กิน ฟลูออไรด์ ยิ่งเยอะยิ่งดี

สำหรับความเชื่อที่คุณพ่อคุณแม่หลายท่านจะเชื่อกันนะคะ ก็คือเวลาพาลูกไปหาคุณหมอก็จะได้รับยาเม็ดฟลูออไรด์กันมา แล้วก็เชื่อว่าอันนี้เป็นสิ่งที่คุณหมอให้ต้องให้ลูกกินไปเยอะๆ เลย จะช่วยให้ฟันของลูกเราแข็งแรงมากขึ้น จริงๆ แล้วเป็นความเชื่อที่ผิดเหมือนกันนะคะ

เพราะว่าฟลูออไรด์จะเป็นสารที่มีทั้งคุณและโทษ มีคุณเมื่อเราใช้ในปริมาณที่เหมาะสม และมีโทษเมื่อใช้ในปริมาณที่มากจนเกินไป ลูกของเราพอได้รับฟลูออไรด์มากในช่วงที่เค้ามีการสร้างฟัน อย่างเช่น อายุตั้งแต่ 6 เดือน – 13 ปี ฟลูออไรด์ที่มากจนเกินไปจะทำให้ฟันแท้ที่ขึ้นมาเนี่ยนะคะ เกิดภาวะที่เรียกว่า ฟันตกกระ ซึ่งจะทำให้ผิวฟันมีความแข็งแรงน้อยกว่าปกติ

10. รอให้ปวดฟัน ค่อยไปหาหมอ

เมื่อไหร่ที่ปวดฟันแล้วค่อยไปหาหมอ จริงๆ แล้วเป็นความเชื่อที่ผิดนะคะ จริงๆ แล้วการที่ร่างกายของเราจะแสดงอาการอะไรออกมา การดำเนินโรคของมันจะต้องค่อนข้างเยอะแล้วเหมือนกัน เราะควรที่จะต้องมาพบทันตแพทย์เป็นประจำ 6 เดือน – 1 ปี อย่างน้อยสัก 1 ครั้ง

เพื่อที่ว่าเราจะได้ให้ทันตแพทย์ หรือหมอฟันเป็นคนช่วยดู และตรวจให้เราว่าเริ่มมีความผิดปกติแล้วหรือยัง แล้วพอตรวจพบสิ่งที่ผิดปกติเบื้องต้น เราก็จะสามารถป้องกันไม่ให้ลุกลามต่อไปได้ค่ะ

จุดเด่นของ ยาสีฟัน Doctor V

จุดเด่นของ ยาสีฟัน Doctor V คือ เป็นยาสีฟันสูตรเข้มข้น ไม่ผสมแป้ง ทำให้มีประสิทธิภาพรักษาความสะอาดได้อย่างดีเยี่ยม ฟองครีมนุ่มเหมือนวิปครีมโดยมีคุณสมบัติที่เป็นจุดเด่นอยู่ 3 ข้อ คือ

1. ปกป้องเหงือก
2. ลดอาการเสียวฟัน
3. ลดกลิ่นปากได้ยาวนาน

ที่สำคัญมีการปรับสมดุลให้เกิดขึ้นภายในช่องปาก จากภาวะกรดอ่อนๆให้กลายเป็นด่าง จึงทำให้แบคทีเรียตัวดีสามารถเติบโตได้ ขณะเดียวกันก็กำจัดแบคทีเรียตัวร้ายออกไปได้ด้วย ทำให้เกิดภูมิคุ้มกันเกิดขึ้นในช่องปาก สุขภาพเหงือกและฟันแข็งแรง

บทความที่เกี่ยวข้อง

• ฟันโยก เกิดจากอะไร มีวิธีป้องกันได้อย่างไรบ้าง ?
• นอนกัดฟัน เรื่องเล็กที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอันขาด!!