โรคเหงือกอักเสบ การป้องกัน และวิธีการรักษา

โรคเหงือกอักเสบ คืออะไร ? ท่านเคยแปรงฟัน และมีเลือดออกตามไรฟัน หรือไม่? เลือดออก ตามไรฟัน เกิดจากอะไร ? และป้องกันได้อย่างไร ? เหงือกท่านเคยมีอาการเจ็บและบวมหรือไม่ หากเคยเป็นนั้นคืออาการของเหงือกอักเสบ ซึ่งประมาณว่าประชากร ร้อยละ 60-70 จะป่วยเป็นโรคเหงือก และโรคเหงือกที่พบบ่อยคือ โรคเหงือกอักเสบ เหงือกปกติมีลักษณะขอบบาง ปกคลุมและแนบกับคอฟัน มีสีชมพูซีด หรือมีสีคล้ำ ตามสีผิวของแต่ละคน

สารบัญ

• อาการของโรคเหงือกอักเสบ
• สาเหตุของ โรคเหงือกอักเสบ
• การรักษา โรคเหงือกอักเสบ
• การป้องกัน โรคเหงือกอักเสบ

อาการดังต่อไปนี้เป็น อาการของโรคเหงือกอักเสบ

1. เหงือกบวม อาจจะมีหรือไม่มีหนองก็ได้
2. เหงือกจะมีสีแดง หรือชมพูเข้ม
3. เมื่อสัมผัสจะเกิดอาการเจ็บ
4. แปรงฟันหรือใช้ไหมขัดฟันจะมีเลือดออก
5. มีกลิ่นปาก
6. เหงือกร่น

สาเหตุของ โรคเหงือกอักเสบ

สาเหตุเบื้องต้น คือ เชื้อแบคทีเรียบางชนิดที่มีอยู่ในช่องปากซึ่งเจริญเติบโตเพิ่มจํานวนขึ้นในสภาวะที่เหมาะสม กล่าวคือการมีคราบอาหารจําพวกแป้งและน้ำตาลที่เกาะบนผิวฟัน และจากการที่เราทําความสะอาดฟันไม่ดีพอทําให้คราบอาหารเหล่านี้กลายเป็นอาหารของแบคทีเรีย

ทําให้แบคทีเรียเจริญเติบโตและเพิ่มจํานวนขึ้นแผ่กระจายไปบนผิวฟัน ที่เราเรียกกันว่า แผ่นคราบจุลินทรีย์ แบคทีเรียพวกนี้เมื่อมีการบริโภคอาหารจําพวกแป้งและน้ำตาลเข้าไปจะปล่อยกรดและสารพิษออกมา เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาการอักเสบ ผลคือ ทำให้เหงือกบวมแดงอักเสบ และมีเลือดออก

ทําให้เกิดการทลายอวัยวะปริทันต์ แผ่นคราบจุลินทรีย์ไม่เพียงแต่จะมีแค่ส่วนตัวฟันที่อยู่เหนือขอบเหงือกเท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นในส่วนใต้ขอบเหงือกที่เรามองไม่เห็น

ส่วนนี้เองที่ทําให้เกิดโรคปริทันต์ลงสู่กระดูกเบ้าฟัน โรคปริทันต์ อักเสบ คืออะไร ? นำไปสู่การสูญเสียฟันจริงไหม ผลคือทําให้กระดูกเบ้าฟันละลาย ทําให้ร่องเหงือกลึกลงไปเรื่อยๆ ทําให้ฟันไม่ยึดติดกับเหงือกและก่อให้เกิดหนองในร่องปริทันต์ทําให้รู้สึกเจ็บเหงือก

อาจมีอาการปวดเมื่อเคาะที่ตัวฟัน และฟันโยกได้ถ้าปล่อยทิ้งไว้เหงือก และกระดูกเบ้าฟันจะถูกทําลายลงเรื่อยๆ จนในที่สุดก็อาจจะต้องสูญเสียฟันซี่นั้นไป เนื่องจากสูญเสียอวัยวะรอบฟันที่ช่วยในการยึดเกาะฟันไว้กับขากรรไกร

อธิบายอีกนัยหนึ่ง คือ คราบเชื้อโรคเมื่อเกาะบนผิวฟันนานๆ กลายเป็นคราบหินปูน เมื่อมีคราบหินปูนก็เป็นที่สะสมของคราบเชื้อโรคมากยิ่งขึ้น

เมื่อคราบหินปูนและแบคทีเรียสะสมมากขึ้นและนานนึ้ จะเพิ่มปริมาณลึกลงไปใต้ขอบเหงือก ทําให้การอักเสบลุกลามลงไปยังอวัยวะปริทันต์ทั้งหมด จึงเกิดการทําลายอวัยวะปริทันต์ตามมา ทําให้เกิดโรคปริทันต์ (รำมะนาด) รู้หรือไม่? โรครำมะนาด หรือ โรคปริทันต์ แบ่งเป็น 4 ระยะ ซึ่งมิได้มีการอักเสบเกิดขึ้นแค่ที่เหงือกเท่านั้น แต่เป็นโรคที่เกิดขึ้นได้กับอวัยวะรอบๆ ฟัน อันได้แก่ เหงือก, กระดูกเบ้าฟัน, เอ็นยึดปริทันต์ และ ผิวรากฟัน ด้วย

การรักษา โรคเหงือกอักเสบ

1. ทันตแพทย์จะทําความสะอาดเหงือก และฟันโดยการขูดหินปูน โดยทั่วไปอาการจะดีขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์หรือทำความสะอาดรากฟัน (เกลารากฟัน) ในกรณที่เป็นโรคปริทันต์อักเสบ
2. ทันตแพทย์อาจจะจ่ายน้ำยาบ้วนปาก น้ำยาบ้วนปาก สลายหินปูนให้หลุด ได้จริงไหม ?
3. ดูแลฟันให้ดีเพื่อป้องกันการกลับเป็นซ้ำ

การป้องกัน โรคเหงือกอักเสบ

1. แปรงฟันอย่างน้อยวันละสองครั้ง
2. ใช้แปรงที่มีขนแปรงนุ่ม ปลายมน
3. ไม่ใช้แรงมากเกินไป
4. แปรงฟันให้ถูกต้อง
5. ใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละครั้ง
6. ตรวจฟันทุก 6 เดือน

บทความที่เกี่ยวข้อง

• รักษารากฟัน ทำไมถึงต้องรักษา มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง ?
• อาการเหงือกบวม อักเสบ ยาสีฟันสมุนไพร ช่วยได้
• หินปูน คืออะไร ทำไมเราต้อง ขูดหินปูน ?